
แมวเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับมนุษย์ยาวนานนับหมื่นปี แมวในอดีตมีลักษณะรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากแมวปัจจุบัน เพราะก่อนที่มนุษย์จะนำแมวมาเลี้ยงนั้น แมวก็ถือว่าเป็นสัตว์นักล่าจำพวกหนึ่ง คาดว่ามนุษย์นับแมวรู้จักนำแมวมาเลี้ยงเนื่องจากเห็นประโยชน์จากการที่แมวล่าหนูและสัตว์อื่น ๆ ซึ่งสัตว์เหล่านี้เป็นศัตรูต่อการเกษตรกรรมของมนุษย์ยุคโบราณ
ไม่นานการนำแมวมาเลี้ยงก็แพร่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก จนปรากฏในตำนานและเรื่องเล่าในอารยธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก และนับแต่นั้นมาแมวก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษยชาติก็ว่าได้
ประวัติ
ในอารยธรรมอียิปต์มีการบูชาแมวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากชาวอียิป์นับถือ เทพีบาเตส (Bastet) เทพีแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ และช่วยต่อต้านสิ่งชั่วร้ายและความเจ็บป่วย เทพีองค์นี้มีส่วนหัวเป็นแมว ลำคัวเป็นคน เมื่อมีแมวเป็นสัตว์เทพเจ้า ชาวอียิปต์จึงมีกฎห้ามทำร้ายแมว หรือนำแมวออกจากอาณาจักร ผู้ใดละเมิดกฎอาจมีโทษถึงชีวิต มีตำนานเล่าว่าทหารโรมันผู้หนึ่งฆ่าแมวโดยไม่ตั้งใจ แต่นั่นทำให้ชาวอียิปต์โกรธแค้นมากจนรวมตัวกันสังหารทหารโรมัน
นอกจากจะบูชาแมวแล้ว แมวยังมีประโยชน์ต่อชาวอียิปต์คือพวกมันช่วยกำจัดหนูและล่างูด้วย ซึ่งสัตว์ทั้งสองชนิดนี้นับเป็นภัยคุกคามชาวอียิป์ในยุคโบราณอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะยกย่องบูชาแมวเป็นสัญลักษณ์แห่งเทพเจ้า แมวยังปรากฏในอักษรเฮียโรกลิฟฟิคของชาวอียิป์ โดยคำว่าแมวนั้นคือ “miu” หรือ “mau” ซึ่งสอดคล้องกับเสียงร้องของแมวนั่นเอง